สมัยนี้เด็กส่วนใหญ่จะเข้าเรียนเร็วค่ะ บางคนเข้าเรียนตั้งแต่ 2 ขวบ หรือยังไม่ 3 ขวบ แน่นอนต้องเข้าใจว่าลูกยังเล็กค่ะ กล้ามเนื้อมือ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กยังพัฒนาไปไม่ทัน ต้องใช้เวลามากกว่าเด็กที่โตแล้ว หรือ 4 ขวบขึ้นไปแล้ว เด็กสองคนต่างกันแค่เดือน สองเดือน พัฒนาการก็ตามกันไม่ทันนะคะ และเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันค่ะ บางคนเขียนเร็ว บางคนเขียนช้า บางคนพูดเร็ว บางคนเดินก่อนพูด เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ
สำหรับลูกวัยอนุบาล พ่อแม่บางคนจึงพบว่าลูกเขียนหนังสือไม่ได้ หรือเขียนได้ไม่ทันเพื่อน ก็เป็นที่กังวลว่า ทำไมลูกเขียนตามรอยประไม่ได้ ระบายสีไม่ได้ หรือทำไม่เสร็จ ไม่มีสมาธิ หรือสมาธิสั้นหรือเปล่า
ตอนที่ลูกสาวอายุสามขวบ เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยชอบเขียน หรือระบายสีเท่าไหร่ ค่ะ ยิ่งเขียนตัวหนังสือเส้นประแบบเป็นบรรทัด บรรทัด ยิ่งไม่เอาเลย ก็เลยลองหาแบบฝึกหัดเขียนแบบอื่นมาให้ทำค่ะ เป็นพวกวาดรูป โยงเส้นอะไรพวกนี้ ให้เค้าได้จับดินสอขีดเขียนไปมา เป็นการชักจูงค่ะ สำหรับระบายสีนั้นเท่าที่สังเกต ไม่รู้ลูกคนอื่นเป็นหรือเปล่า คือลูกสาวไม่ชอบระบายสีภาพใหญ่ ๆ ค่ะ ชอบภาพเล็ก ๆ เข้าใจว่าเด็กนั้นมือเล็กค่ะ ระบายภาพใหญ่ มีเนื้อที่มาก ๆ มันก็คงเมื่อยเหมือนกัน ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้เค้าระบายแค่ตา จมูก ปาก อะไรแบบนี้ก็ยังดี ต้องเอ่ยปากชมด้วยนะคะ
สำหรับการฝึกกล้ามเนื้อมือ ที่ได้ผล ก็คือให้ปั้นดินน้ำมัน ค่ะ ให้เค้าเล่นไปเรื่อย ๆ บีบไป บีบมา ค่อย ๆ สอนให้ปั้น ต้องใจเย็น ๆ ค่ะ เมื่อไหร่ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ได้นั่นแหละ เค้าพร้อมที่จะหัดเขียนแล้ว (อันนี้คุณครูเตรียมอนุบาลบอกมาค่ะ เพราะตอนที่ลูกสาวเข้าโรงเรียนตอนแรก คุณครูไม่ให้เขียนเลย ให้ปั้นดินน้ำมัน กะระบายสีเท่านั้น)
เด็กที่อายุอ่อนเกณฑ์ที่มีปัญหาเรื่องการเขียน ส่วนใหญ่จะมาทันเพื่อน ๆ เมื่ออายุใกล้ 4 ขวบ หรือประมาณอนุบาลสองเทอมสอง เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กเค้าพร้อมแล้วค่ะ
อีกอย่างที่สำคัญ ต้องคุยกับคุณครูที่โรงเรียนด้วย เพราะคุณครูอยู่กับลูกทั้งวัน ว่าลูกเราเป็นอย่างนี้ ยังทำอะไรไม่ได้บ้าง ให้คุณครูเค้าเอาใจใส่เป็นพิเศษ และอย่าลืมสังเกตว่าลูกชอบทำอะไร หรือไม่ชอบทำอะไร เก็บไปฝากครูด้วยค่ะ เค้าจะได้เข้าใจลูกของเรามากขึ้น ต้องทำให้ลูกรักคุณครูด้วยนะคะ จะเป็นประโยชน์มากค่ะ
เด็กที่อายุอ่อนเกณฑ์ที่มีปัญหาเรื่องการเขียน ส่วนใหญ่จะมาทันเพื่อน ๆ เมื่ออายุใกล้ 4 ขวบ หรือประมาณอนุบาลสองเทอมสอง เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กเค้าพร้อมแล้วค่ะ
อีกอย่างที่สำคัญ ต้องคุยกับคุณครูที่โรงเรียนด้วย เพราะคุณครูอยู่กับลูกทั้งวัน ว่าลูกเราเป็นอย่างนี้ ยังทำอะไรไม่ได้บ้าง ให้คุณครูเค้าเอาใจใส่เป็นพิเศษ และอย่าลืมสังเกตว่าลูกชอบทำอะไร หรือไม่ชอบทำอะไร เก็บไปฝากครูด้วยค่ะ เค้าจะได้เข้าใจลูกของเรามากขึ้น ต้องทำให้ลูกรักคุณครูด้วยนะคะ จะเป็นประโยชน์มากค่ะ
สำหรับเรื่องสมาธิสั้นหรือไม่นั้น ปรึกษาครูที่โรงเรียน หรือให้แพทย์ช่วยดูให้อีกทีนะคะ ถ้าเป็นจริง ๆ รักษาได้แต่เนิ่น ๆ ค่ะ ถ้าเรายอมรับ
มีเหตุผลหนึ่งที่เด็ก ๆ ไม่อยากเขียน ไม่อยากทำการบ้าน คือการบ้านมันไม่โดนใจค่ะ เด็ก ๆ ก็เบื่อเหมือนกันค่ะ ลองทำเป็นแบบว่าแม่อยากจะช่วยทำ แต่แม่เขียนยังไงก็เขียนไม่ได้ ดินสอมันเขียนไม่ออก ไหนลูกลองเขียนดูซิ พอเค้าเขียนได้ก็ โอ้โห นี่มันเป็นการบ้านของลูกคนเดียวเลย ดินสอก็พิเศษของเค้าคนเดียวเลย มุกนี้ได้ผลค่ะ ทั้งการบ้านระบายสี และอะไรที่ไม่อยากทำ ถ้ายังไม่ได้ ก็ลองแบบแข่งกันค่ะ เอาการบ้านลูกไปซีรอค ใครทำเสร็จก่อนคนนั้นชนะ มีข้อแม้ว่าต้องทำเองเท่านั้น ของใครของมันค่ะ
ยังไงก็ฝากคุณพ่อ คุณแม่ ท่านไหนมีประสบการณ์ ช่วย Share ข้อคิดเห็น เพื่อประโยชน์ของเด็ก ๆ ด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง....................................................
******รวมภาพระบายสีสำหรับเด็ก
******เลี้ยงลูกให้ฉลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น